วันอังคารที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

DIY ตอน 8 เปลี่ยนมอเตอร์กระจกไฟฟ้า แลนเซอร์ อีคาร์

แลนเซอร์ อีคาร์ ปี 93 เริ่มทยอยเสียทีละอย่างสองอย่างแล้วครับ แต่ยังรักมันอยู่จึงต้องซ่อมกันต่อไป ในวันนี้ขอนำเสนอการเปลี่ยนมอเตอร์กระจกไฟฟ้า พร้อมทั้งสวิทช์ซึ่งเป็นจุดอ่อนของ Lancer e-car รุ่นนี้เป็นอย่างยิ่ง (ข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต) สำหรับคันนี้ เคยมีปัญหาเสียสะสมมาจนครบทุกบานหน้าต่างแล้ว จึงมาซ่อมพร้อมกันทีเดียวเสียเลย มีสวิทช์ชุดเล็กเสีย ด้านซ้าย 2 ชุด สวิทช์เซ็นเตอร์ด้านคนขับเสีย (เสีย 2 ตัวย่อย ต้องเปลี่ยนทั้งชุด) ชุดมอเตอร์เสียด้านขวาทั้งหน้าและหลัง

วิธีการตรวจสอบว่าสวิทช์หรือมอเตอร์เสียนั้น ให้ใช้วิธีสลับสวิทช์ โดยต้องมีสวิทช์ที่ดี 1 ตัวสำหรับสลับเปลี่ยน ถ้ายังเลื่อนกระจกขึ้นลงได้ แสดงว่ามอเตอร์ดี สวิทช์เก่าเสีย ในทางกลับกันถ้าเลื่อนกระจกไม่ได้แสดงว่ามอเตอร์เสีย

วิธีการเปลี่ยนสวิทช์ตัวเล็ก

  • ใช้ไขควงปากแบน งัดเอาสวิทช์ขึ้นมาเบา ๆ สวิทช์ตัวเล็กเขาล็อกด้วยคุณสมบัติของพลาสติกที่ให้ตัวได้ ไม่ได้ขันด้วยน็อต สกรูแต่อย่างใด
  • การถอดเปลี่ยนสายไฟ ให้ใช้ไขควงปากแบนกดที่ร่องสลักลงไป แล้วดึงขั้วสายไฟออกมา ถ้าไม่ใช้ไขควงปากแบนกดที่ร่อง แต่ใช้แรงดึงออกมาอย่างเดียวจะทำให้ขั้วยึดสายไฟชำรุดได้
  • ใส่สวิทช์ตัวใหม่เข้าไป ให้ทดลองผลการทำงานดูก่อนว่าใช้ได้หรือไม่ ก่อนที่จะติดตั้งลงในตำแหน่งเดิม
ขั้นตอนวิธีการถอดมอเตอร์กระจกไฟฟ้า
  • ถอดแผ่นครอบชุดมอเตอร์ ด้วยการขันสกรูเกลียวปล่อย ด้านปุ่มล็อก



  • ถอดสกรูเกลียวปล่อยด้านหน้า



  • ถอดสกรูมือจับ ปิด-เปิด



  • ถอดสกรูเกลียวปล่อย ชุดดึงสลักกลอนเพื่อเปิด



  • ดึงแผ่นครอบชุดมอเตอร์ออก โดยแกะชุดล็อกออกเบา ๆ โดยการใช้ไขควงปากแบนแงะออกเบา ๆ การล็อกฝานี้ใช้ดุมพลาสติกตัวผู้ตัวเมีย สุดท้ายให้ยกขึ้นเพื่อให้ออกจากปุ่มล็อกปิด-เปิดด้านบน
  • ถอดชุดสายไฟออกจากขั้วสวิทช์ชุดใหญ่ ด้วยวิธีเดียวกับสวิทช์ชุดเล็ก หลังจากนั้นให้ถอดเอาสวิทช์อันนี้ ออกจากที่ยึด ด้วยการถอดน็อตที่ล็อกด้านหน้า (มีลักษณะเป็นสเตนเลสสปริง)


  • ถอดแผ่นพลาสติกบาง ๆ กันฝุ่นออก แผ่นนี้มีความสำคัญ ถ้าฉีกขาดจะให้มีเสียงเข้ามาในรถมาก หรือมีกลิ่นรั่วเข้ามาได้ แนะนำให้เปลี่ยนใหม่ด้วย ดังรูป



  • ถอดน็อตยึดมอเตอร์ 3 ตัว กับตัวยึดรางเลื่อนหน้าต่างที่มีน็อต 4 ตัว ด้วยประแจเบอร์ 10 ดังลูกศร โดยดึงกระจกให้ออกจากรางที่วางกระจกลงด้านล่าง


  • ค่อย ๆ นำเอามอเตอร์และรางเลื่อนกระจกออกจากช่องออกมา รางเลื่อนและมอเตอร์มีรูปร่างดังภาพด้านล่าง


  • นำเอาของใหม่มาประกอบกลับ เข้าไปใหม่ ด้วยการทำย้อนกลับกับการถอด
ข้อเสนอแนะในการซื้ออะไหล่
  • สวิทช์ชุดเล็กทั้ง 3 อันเหมือนกันหมด สลับกันได้ แต่ชุดมอเตอร์ทั้ง 4 ด้านมีโครงร่างไม่เหมือนกัน ดังนั้น ควรเอาตัวอย่างไปเปรียบเทียบ ป้องกันร้านอะไหล่ขายมั่วให้ของผิดด้านมาจะทำให้เสียเวลา ซึ่งจริงๆแล้ว จะมีภาษาอังกฤษเขียนกำกับเอาไว้ เช่่น ด้าน หน้าขวา จะมีอักษร F และ R นั้นคือ F = Front คือด้านหน้า R = Right คือ ด้านขวา ในการซ่อมครั้งนี้ร้านเขาให้มาผิด ต้องเสียเวลากลับไปเปลี่ยนอันใหม่
  • หลายคนนิยมซื้อของมือสองจากญี่ปุ่น แต่ถ้าอยู่ที่ จ. สงขลาจะใช้ของมาเลย์ เพราะรุ่นนี้อะไหล่เหมือนกับรถ Proton ทุกอย่าง ราคาจึงถูกกว่า เช่น สวิทช์ด้านคนขับของใหม่ราคา 850 บาท ถ้าใช้ของเมืองไทย ในเว็บบอกราคา 4,500 บาท แต่คนละยี่ห้อกันนะครับ ของมาเลย์สวิทช์จะแข็งกว่า ไม่แน่ใจว่าจะทนทานเพียงใด แต่ของเดิมจะเป็นยี่ห้อ Omron รูปของสวิทช์ที่ผลิตในมาเลย์ ดังภาพด้านล่าง



  • พูดถึงอะไหล่มาเลเซีย มีอีกอย่างหนึ่งคือหลังคา ที่รถรุ่นนี้ต้องเปลี่ยนทุกคัน เพราะผุจากกาวอีป็อกซี่ ผมใช้บริการของรถ Proton ราคาประมาณ 4,000 บาท ในขณะที่ลองติดต่อศูนย์มิตซูบิชิประเทศไทย เขาใจดียินดีลดราคาให้ 25 % เหลือ 7,500 บาท เขาว่าต้องซื้อคานเหล็กอีก 2 อันด้วย รวมแล้วเกือบหมื่นบาท ไม่เอาดีกว่า
  • ในการซ่อมครั้งนี้ สามารถเปลี่ยนเฉพาะมอเตอร์อย่างเดียวก็ได้ เพราะมีชุดหนึ่งที่สายสลิงขาดบางเส้น มอเตอร์ยังใช้ได้ นำไปเปลี่ยนกับรางที่มอเตอร์เสีย ทำให้ประหยัดเงินได้ ทำให้การซ่อมครั้งนี้ หมดเงินไปเพียง 2,000 บาท สวิทช์ชุดใหญ่ 850 บาท สวิทช์ชุดเล็กตัวละ 150 บาท 3 ตัว มอเตอร์และรางราคา 700 บาท
การบำรุงรักษา
  • การบำรุงรักษากระจกไฟฟ้า มีคนเข้าใจผิด คิดว่าถ้าไม่ใช้เลยจะทำให้ทนทานกว่า นั้นไม่จริง เพราะว่ามอเตอร์และสลิงจะเกิดสนิม ฝืดและเมื่อใช้ทำให้ขึ้นลงลำบาก มีโหลดหนักจึงทำให้สวิทช์มีกระแสสูง หน้าสัมผัสทองแดงจะทนกระแสสูงไม่ได้ ทำให้ชำรุดในที่สุด
  • มอเตอร์ก็เช่นเดียวกัน จารบีหรือสิ่งหล่อลื่นเสื่อมสภาพ ขี้ฝุ่นเกาะเกิดสนิมที่แกนและบุชของมอเตอร์ทำให้ไม่หมุนได้
  • ถ้ามีเวลาและรักงานซ่อมจริงๆ แนะนำให้ถอดออกมาดังวิธีเดียวกันนี้ แล้วมาทาด้วยจารบีทุก ๆ 3 ปี น่าจะทำให้กระจกขึ้นลงอย่างราบรื่นดีกว่า
  • ถ้ารถยนต์ถูกน้ำท่วม แนะนำให้ถอดมาบำรุงรักษาก่อนใช้งานครับ
สุดท้ายขอฝากข้อคิดเตือนใจ มายังผู้ใช้รถใช้ถนนทุกท่าน โปรดให้ความเคารพกฏจราจรอย่างเคร่งครัด อย่าขับรถเร็วเกิน 90 กม./ชม. เพราะเมื่อพลาดพลั้งขึ้นมามันไม่สามารถกลับมาแก้ตัวใหม่ได้อีกต่อไป ขอให้โชคดีครับ

comment from facebook